อ.สุจิตต์ วงษ์เทศ
เรื่องสั้นของท่านเรื่องแรก คือเรื่อง "คนบาป" เป็นการเล่าเรื่องการฆ่าคนด้วยงูเห่า โดยบันทึกจากคำบอกเล่าของ "อามหา" เรื่อง "คนบาป" เป็นเรื่องสั้นที่ อ.สุจิตต์ ได้ระบายความอัดอั้นดันใจ อยากด่า อยากฆ่าคนที่ทำลายศิลปกรรมไทยเท่านั้น ปี พ.ศ.2509 เรื่องสั้นคนบาปได้ตีพิมพ์ในหนังสือสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
เป็นความสงสัยของผู้เขียนมานมนานเกี่ยวกับเรื่องราวของ "ขุนเดช" แห่งเมืองสุโขทัย ซึ่งตัวเองก็เคยได้ยินชื่อนี้มานาน แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ? เคยได้ยินอาจารย์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า เรื่อง "ขุนเดช" เคยเป็นละครเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่อ๊ออฟ พงษ์พัฒน์ แสดงเป็นขุนเดช (ผู้เขียนเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเคยดูหรือเปล่า)
เมื่อได้มาอ่านคอลัมน์ใน นสพ.มติชน ก็ได้เข้าใจกระจ่างแจ้งว่า ขุนเดช ที่คิดว่าเป็นแค่เรื่องเล่าและนิยายที่แต่งขึ้น มีตัวตนจริง อ.สุจิตต์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ "อามหา" หรือ "ขุนเดช" อดีตลูกจ้างของกรมศิลปากร ผู้ที่มีความรักและหวงแหนในศิลปโบราณสถานและโบราณวัตถุของชาติ แต่ว่ามีคนใจบาป ลักลอบตักเศียรพระพุทธรูปเพื่อนำไปขาย จึงทำให้ "อามหา" หรือ "ขุนเดช" คิดกำจัดคนพวกนี้ด้วยวิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
เรื่องราวต่างๆที่ "อามหา" เล่าให้ อ.สุจิตต์ ฟังเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษา จึงได้ถูกถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือเป็นเรื่องสั้นหลายๆเรื่อง ปี พ.ศ.2512 พ็อกเก็ตบุ๊กเรื่อง ขุนเดช ได้วางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป และได้นำมาสร้างเป็นละครทีวีถึง 2 ครั้ง
ขุนเดช พ.ศ.2542 นำแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์
ขุนเดช พ.ศ.2555 นำแสดงโดย วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ และ อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ "อามหา" หรือ "ขุนเดช" ได้สอนให้คนไทยทุกคนรู้จักรักและหวงแหนศิลปะอันมีค่าของคนไทย แม้แต่คนไทยด้วยกันเองก็ยังไม่เห็นคุณค่า กลายเป็นของมีค่าของพวกฝรั่งมังค่าไป ดังนั้น คนไทยทุกคนควรปลุกจิตสำนึกลูกหลานให้รู้รักษ์ในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่ประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น